จับมือร้องไห้ ต่อหน้าพ่อ ยิปซี-ยิปโซ เคลียร์ใจปัญหาพี่น้องตลอด 20 ปี

ล่าสุด 2 พี่น้องคนบันเทิง ยิปซี คีรติ และ ยิปโซ อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ได้มาเป็น แขกรับเชิญคนพิเศษ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เล่าย้อนอดีต ในความสัมพันธ์ ของพี่น้อง ที่ทำให้เกิดช่องว่างมา ตลอด 20 ปี กว่าจะหันหน้ามาเคลียร์กัน อย่างเปิดใจ พร้อมความในใจของ คุณพ่อ ที่มีต่อลูกสาวทั้งคู่ ที่ทำให้เสียน้ำตา กันทั้งรายการ
ยิปซี ยิปโซ เล่าย้อนไปแล้วในขณะนั้นเกิดอะไรขึ้น ในความสัมพันธ์พี่น้อง?
ยิปซี : พ่อเป็นผู้ชาย ที่เท่มากเขาเหมือน เป็นฮีโร่ในใจเรา ตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ยิปโซ เขาเกิดมาเป็นเด็ก ที่ค่อนข้างป่วย จะต้องเข้าตู้อบเกือบไม่รอด เป็นเด็กอ่อนแอมาก
ยิปโซ : เกิดมาเป็นก้อนตัวเหลือง ๆ ที่พ่อจะต้องเอาไปผึ่งแดด ช่วงเช้าค่ะ ไปวางไว้บนขาแล้วคราวนี้ก็พลิกด้านไปมา
ยิปซี : พอน้องเขา เริ่มโตขึ้นมานิดนึง เขาก็เริ่มมีอาการ สะเงาะสะแงะ คือเขาเป็นเด็กอมนม แล้วเขาก็ฟันผุทั้งปากเลย เนื่องจากเขาจะต้องครอบฟันเหล็กตั้งแต่เด็ก ซึ่งมันทำให้รูปลักษณ์ของ ยิปโซ ดูเป็นเด็กที่ไม่น่ารัก เหมือนญาติ ๆ ก็จะไม่ค่อยเอ็นดู ป๊าเขาก็เป็นคนดีเนอะ เขาก็จะมีความรู้สึกว่าคนนี้ทั้งอ่อนแอด้วย และก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเขา ป๊าก็เลยประกบติดคนนี้ เพราะเขาก็เห็นว่าเราก็มีแม่แล้ว
เมื่อก่อนยิปก็จะมี อากงรักมากโอ๋มาก เปย์ยิปมาก แต่ว่ายิปรู้สึกไม่โอเคเลยตอนนั้น เขาไม่ทราบว่า เขาเป็นผู้ที่เรา อยากได้รับความสนใจจากเขาที่สุด ยิปเป็นเหมือนแบบเด็กต่อต้าน เป็นกบฏ ก็คือไม่ค่อยเอาที่บ้านเท่าไร ไปอยู่กับเพื่อน เพราะพ่อสนใจ น้องมากกว่า ถ้าอย่างนั้นเราทำเป็นแบบ ฉันไม่ต้องการคุณ และก็กลายเป็นเงียบไป สร้างโลกอีกโลกหนึ่ง ที่เราคิดว่า โลกนี้ไม่มีคนแย่งฉัน ก็คือที่โรงเรียน เวลากลับมาบ้าน ก็จะเปลี่ยนเป็นไม่สุงสิง กับใครเลย ก็ขึ้นห้องตนเอง
ชนวนจริงๆคือ คุณพ่อ?
ยิปซี : ใช่ค่ะ แต่ว่าเขาไม่ทราบนะคะ เขาพึ่งจะมารู้ตอนประมาณปีนี้เอง รู้แค่ว่าลูกแปลก เขาก็พยายาม ชวนยิปคุยเราก็จะแบบถามคำ ตอบคำ ทำหน้าเฉยชาจน แม่คุยกับพ่อว่า เขาแปลก ๆ นะหรือลองพา ไปหาจิตแพทย์ไหม
ยิปโซ : มันจะมีอีกมุมหนึ่ง ในมุมที่เจ๊เล่า แต่ว่ายิปขออนุญาตเล่าแทนพ่อแม่ เนื่องจากเขาไม่ได้ มาอยู่ตรงนี้ด้วย เราเข้าใจในฝั่งของตัวเองนะ
แต่ว่ามันมีมุมหนึ่งที่ คนเราทุกคนมันอยู่ร่วมกัน ในบ้านเดียวกัน แล้วมันมีคนที่พยายาม จะเชื่อมกับอีกคนหนึ่งมาก ๆ แล้วมันไม่ได้ผลตอบรับมา ซึ่งพ่อแม่ยอมรับนะว่า ต่อให้เป็นพ่อแม่โตกว่าอะไรกว่า แต่ว่าพ่อแม่ เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องการความรักเช่นกัน เขาเองก็รู้สึกว่า ลูกคนนี้ไม่รัก มันก็เลยทำให้เกิด เหมือนช่องว่างค่ะ
ส่วนระหว่างพี่น้อง ก็หนักอยู่ค่ะ (ยิ้ม) แต่ว่ามันหนัก ในอดีตนะคะ ในตอนนี้มันไม่หนักแล้วอันนี้จะต้องบอกก่อน ในขณะเจ๊มองว่าป๊าเป็นไอดอล เราเองก็มองว่าเจ๊เป็นผู้ที่ เราต้องการเข้าหา ยิ่งตอนที่เหมือน เป็นวัยรุ่นขึ้นมาหน่อยแล้ว
ตอนที่อยู่โรงเรียน เรายิ่งรู้สึกว่าเขาป๊อปมาก ในโรงเรียน ป๊อปกับทุกคน แล้วเป็นทั้งเชียร์ลีดเดอร์ เป็นเด็กที่สวยระดับต้น ๆ ของโรงเรียนเป็นดาว โบฟ้า นางฟ้าอะไรแบบนี้ ตั้งแต่เด็กกระทั่งโต เราคิดว่าเราต้องการเล่นด้วย ต้องการอยู่ด้วย เข้าหาต่อให้เขาลำไย เราก็ไม่สน ฉันไม่สน ฉันจะเล่นด้วย
อันหนึ่งที่พี่ชื่นชม ยิปซี หากบังเอิญน้องออกไป ประชดในอีกแบบหนึ่ง ไปประชดด้วยการทำให้ชีวิตให้ห่วย และสุดท้ายแล้วพ่อแม่ จะงงไปกันใหญ่ เลยว่าเกิดอะไรขึ้นลูก แล้วกว่าที่จะพูดว่า เกิดอะไรขึ้นลูกคำนี้ ออกมามันอาจจะช้าไปแล้ว มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ ของพ่อแม่เท่านั้นด้วย พี่น้องสองคน 20 ปี แล้วเราปลดล็อกกัน ได้ยังไง?
ยิปโซ : การปลดล็อก นี่ปลดแล้วปลดอีก ปลดแล้วปลดอีก จังหวะหนึ่งเรา รู้สึกต้องการเข้าหาไปเปิดใจคุย จังหวะนั้นเขาอาจจะยังไม่พร้อม และก็จังหวะที่เจ๊ พร้อมแล้วเจ๊เข้ามาหา เราก็ไม่ไว้ใจเขแล้ว แต่ยิปว่าจุดเรียกว่า เป็นสิ่งสำคัญ คือคุณไม่หยุดพยายาม มันจะมีช่วงหนึ่ง ที่เจ๊เข้ามาหาเต็มที่มากค่ะ มันค่อย ๆ กลับมาสร้างความไว้ใจได้ ให้เราอีกรอบหนึ่ง มันก็พัฒนา มาถึงจุดที่ว่า เราได้มาทำรายการร่วมกัน
ถาม ยิปซี จุดเปลี่ยนของเราคือยังไง
ยิปซี : มันก็นานนะคะ มันก็ 20 ปีกว่าเนอะ มันไม่เคยมีความสุข มันเป็นความทุกข์ เราแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ตั้งแต่ตอนแรกค่ะ เราจะรู้สึกตัวยังเป็นรูอยู่ตลอดเวลา มันไม่เติมเต็มพอ มันเริ่มตกตะกอน เราก็เริ่มคิดว่าพอเหอะ
อยากจะให้มันดีกันสักที เราไม่เคยเกลียดเขา แค่เรากลัว เรากลัวเพราะเราคิดว่า เราสู้เขามิได้ จำได้ว่าบอกประโยคว่า เจ๊อิจฉาโซ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรา ไม่อยากจะพูดที่สุด ด้วยเหตุว่ามันเป็นประโยคที่ฟังดูน่าเกลียด
มันเป็นประโยคเป็นที่ยอมรับว่า เราแพ้ แล้วเราเป็นผู้ที่ ชอบการเอาชนะ เป็นคนไม่ชอบแพ้ ชอบทำให้สำเร็จค่ะ แล้วการที่เราไป บอกต่อหน้าเขาว่า จริง ๆ ฉันอิจฉาแกนะ เป็นก้อนที่บอบบางที่สุดของเราแล้วค่ะ กลัวมากวันนั้น กลัวมากที่เราพูดต่อหน้าเขา
ด้วยเหตุว่าเราไม่ทราบว่า จะออกมาเป็นแบบไหน แต่ว่ามันแค่รู้สึกว่าวันนั้น มันจะต้องพูดแล้ว แล้วมันกลายเป็นว่า เหมือนพอเราเปิด เขาก็เปิดด้วยค่ะ